เลขที่อนุมัติ ฆสพ.สบส. 7542/2565

อากาศชื้นกับอาการกำเริบของโรคภูมิแพ้

อากาศชื้นกับอาการกำเริบของโรคภูมิแพ้

หลายคนอาจสังเกตว่าเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝนหรือวันที่อากาศชื้นสูง อาการ ภูมิแพ้ ที่เคยสงบดีอาจกลับมากำเริบอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น คัดจมูก จาม น้ำมูกไหล หายใจไม่สะดวก หรือแม้แต่ผื่นคัน ที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุชัดเจน ความชื้นในอากาศไม่ได้ส่งผลแค่ความรู้สึกไม่สบายตัวเท่านั้น แต่ยังเป็น ตัวกระตุ้นสำคัญ ที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ และกระตุ้นการแพ้ในคนที่มีแนวโน้มภูมิแพ้อยู่แล้ว  

อากาศชื้นกระตุ้นภูมิแพ้อย่างไร?

  • เพิ่มจำนวนไรฝุ่นและเชื้อราในบ้าน
    ความชื้นในอากาศสูงทำให้ไรฝุ่น เชื้อรา และแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดี โดยเฉพาะในที่นอน ผ้าม่าน และห้องน้ำ
  • กระตุ้นการอักเสบของเยื่อบุทางเดินหายใจ
    อากาศชื้นทำให้เยื่อบุจมูกบวม และทำให้หายใจลำบากมากขึ้นในผู้ที่เป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้
  • ร่างกายขาดการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อม
    การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิฉับพลัน เช่น เข้าห้องแอร์หลังตากฝน หรือเปียกฝนแล้วไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า ทำให้ภูมิคุ้มกันรวนและเกิดอาการแพ้ได้ง่ายขึ้น

อาการภูมิแพ้ที่พบบ่อยเมื่ออากาศชื้น

  • จามบ่อย น้ำมูกใสไหล คัดจมูก หายใจไม่คล่อง
  • คันตา น้ำตาไหล หรือระคายเคืองตา
  • ผื่นลมพิษ หรือผื่นแดงตามตัว
  • หอบหืด หรือแน่นหน้าอกในผู้ที่มีประวัติโรคหืด
  • คันคอ เสียงแหบ หรือไอเรื้อรัง

วิธีป้องกันอาการกำเริบของภูมิแพ้ในฤดูฝน

  • ควบคุมความชื้นภายในบ้าน เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท หรือใช้เครื่องลดความชื้นในบริเวณที่อับชื้น เช่น ห้องน้ำ ห้องเก็บของ
  • ซักผ้าปูที่นอนและผ้าม่านบ่อย ๆ เพื่อกำจัดไรฝุ่นและเชื้อราที่สะสม
  • หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีเชื้อราและฝุ่นมาก เช่น ห้องเก่า ห้องเก็บของ ห้องใต้ดิน หรือพรมที่ไม่ค่อยได้ทำความสะอาด
  • สวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกบ้านในวันที่ฝนตกหรืออากาศชื้นจัด เพื่อกรองสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ
  • เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง โดยการนอนให้พอ ออกกำลังกาย และกินอาหารที่อุดมด้วยวิตามินซีและโอเมก้า 3

อากาศชื้นไม่ใช่แค่ปัญหาเรื่องฝนตกหรือความอับชื้นในบ้าน แต่ยังเป็นสาเหตุหลักที่กระตุ้นให้โรคภูมิแพ้กำเริบได้ง่าย โดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติแพ้ไรฝุ่น เชื้อรา หรืออากาศเปลี่ยนแปลง การป้องกันตั้งแต่สภาพแวดล้อม ไปจนถึงการดูแลร่างกายจากภายใน จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมภูมิแพ้ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันในฤดูฝนนี้