ปัญหาการนอนไม่หลับของเรายังไม่มีทีท่าว่าจะหมดไป ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเศรษฐกิจของเรามีการจัดการที่เน้นการทำงานที่อดนอนมากขึ้น ในสหรัฐอเมริกา คนงานฝ่ายผลิตมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาการนอนหลับมากที่สุด ซึ่งอาจเป็นเพราะการทำงานเป็นกะ ในสหราชอาณาจักร นักฟุตบอลอาชีพใช้ยานอนหลับมากเกินไปเพื่อช่วยให้พวกเขาผ่อนคลายหลังจากความตื่นเต้นเร้าใจจากการแข่งขัน
ต้นเหตุของปัญหาการนอนหลับ
- ความเครียดและความวิตกกังวล
เป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของการนอนไม่หลับ ความเครียดกระตุ้นฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ทำให้ร่างกายตื่นตัว สมองไม่สามารถผ่อนคลายได้ ส่งผลให้หลับยากหรือหลับไม่ลึก
- พฤติกรรมก่อนนอนที่รบกวนการหลับ
- ดื่มกาแฟ ชา หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก่อนนอน
- เล่นโทรศัพท์หรือดูจอคอมพิวเตอร์ในที่มืด
- นอนดึกเป็นประจำ หรือเปลี่ยนเวลานอนบ่อย
สิ่งเหล่านี้ทำให้ “นาฬิกาชีวภาพ” ของร่างกายสับสน จึงยากที่จะเข้าสู่ภาวะหลับลึก
- ปัญหาสุขภาพทางกาย โรคบางอย่างส่งผลต่อการนอน เช่น
- ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea)
- ภาวะกรดไหลย้อน
- อาการปวดเรื้อรัง หรือโรคหัวใจ
- การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาลดความดัน หรือยากระตุ้นประสาท
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
โดยเฉพาะในวัย 40 ปีขึ้นไป ร่างกายเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น เมลาโทนิน (Melatonin) ที่ช่วยให้หลับลึกจะหลั่งลดลง ส่งผลให้นอนหลับยาก และตื่นบ่อยตอนกลางคืน
- สภาพแวดล้อมการนอนที่ไม่เหมาะสม
ห้องนอนที่สว่างเกินไป เสียงดัง หรืออุณหภูมิไม่เหมาะสม ล้วนรบกวนคุณภาพการนอนได้
อ้างอิง
https://theconversation.com/a-short-history-of-insomnia-and-how-we-became-obsessed-with-sleep-211729