เลขที่อนุมัติ ฆสพ.สบส. 7542/2565

ป้องกันไวรัสตับอักเสบ A B C ง่ายกว่าที่คิด เริ่มได้วันนี้

ป้องกันไวรัสตับอักเสบ A B C ง่ายกว่าที่คิด เริ่มได้วันนี้

ไวรัสตับอักเสบ A B C คืออะไร และต่างกันอย่างไร

  • ไวรัสตับอักเสบ A (HAV) : ติดต่อจากการกินอาหารหรือน้ำปนเปื้อนเชื้อ หรือสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อแล้วนำเข้าปาก มักเป็นแบบเฉียบพลัน ไม่กลายเป็นเรื้อรัง
  • ไวรัสตับอักเสบ B (HBV) : ติดต่อผ่านเลือด สารคัดหลั่ง การมีเพศสัมพันธ์ หรือจากแม่สู่ลูก อาจกลายเป็นเรื้อรังและนำไปสู่ตับแข็งหรือมะเร็งตับ
  • ไวรัสตับอักเสบ C (HCV) : ติดต่อทางเลือดเป็นหลัก เช่น ใช้เข็มร่วมกัน สักหรือเจาะร่างกายที่ไม่ปลอดเชื้อ มักไม่แสดงอาการจนเข้าสู่ระยะเรื้อรัง

เริ่มป้องกันได้ด้วยวิธีง่ายๆ

  1. รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล
  • ล้างมือด้วยสบู่ทุกครั้งก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำ
  • รับประทานอาหารปรุงสุก ดื่มน้ำสะอาด
  • หลีกเลี่ยงอาหารจากแหล่งที่ไม่มั่นใจเรื่องความสะอาด
  1. ป้องกันการสัมผัสเลือดและของใช้ส่วนตัวร่วมกัน
  • ไม่ใช้เข็ม ของมีคม แปรงสีฟัน หรืออุปกรณ์ตัดเล็บร่วมกับผู้อื่น
  • เลือกสถานพยาบาลหรือร้านสัก/เจาะที่ได้มาตรฐานและใช้อุปกรณ์ปลอดเชื้อ
  1. ป้องกันความเสี่ยงจากเพศสัมพันธ์
  • ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง โดยเฉพาะกับคู่ที่ไม่ทราบประวัติสุขภาพ
  1. ฉีดวัคซีนป้องกัน
  • วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ A
    – ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 6–12 เดือน
    – เหมาะสำหรับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางไปประเทศที่มีการระบาดสูง
  • วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ B
    – ฉีด 3 เข็ม ตามกำหนด 0 – 1 – 6 เดือน
    – แนะนำให้ตรวจเลือดก่อน เพื่อดูว่ามีภูมิคุ้มกันอยู่แล้วหรือไม่
  • ไวรัสตับอักเสบ C
    – ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกัน จึงต้องเน้นป้องกันด้วยพฤติกรรมและการตรวจคัดกรอง
  1. ตรวจสุขภาพตับเป็นประจำ
  • การตรวจเลือดและเทคโนโลยีคัดกรองตับช่วยให้รู้สถานะสุขภาพตั้งแต่ระยะแรก
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงหรือประวัติครอบครัวเกี่ยวกับโรคตับ