เคยรู้สึกไหมว่า…พอฝนตก ฟ้าครึ้ม อากาศมืดสลัว รู้สึกหดหู่มากกว่าปกติ? ไม่อยากลุกจากเตียง ไม่อยากพบใคร หรือแม้แต่กิจกรรมที่เคยชอบก็กลายเป็นเรื่องน่าเบื่อ นั่นอาจไม่ใช่แค่ “อารมณ์ขุ่นตามอากาศ” แต่เป็นสัญญาณของภาวะซึมเศร้าตามฤดูกาล หรือที่เรียกว่า SAD (Seasonal Affective Disorder) ซึ่งเกิดขึ้นได้จริง โดยเฉพาะในฤดูฝนที่แสงแดดน้อยลง และอากาศชื้นเย็นอาจกระทบระบบสารเคมีในสมองอย่างไม่รู้ตัว
ภาวะ SAD คืออะไร?
SAD เป็นรูปแบบหนึ่งของภาวะซึมเศร้าที่เกิดตามฤดูกาล โดยเฉพาะในช่วงที่มีแสงธรรมชาติน้อย เช่น ฤดูฝนหรือฤดูหนาว อาการอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับเซโรโทนิน (Serotonin) และเมลาโทนิน (Melatonin) ซึ่งส่งผลต่อการนอน อารมณ์ และจังหวะชีวิตของร่างกาย
สัญญาณเตือนว่าคุณอาจกำลังมีอาการซึมเศร้าตามฤดู
- รู้สึกหดหู่ เศร้า หรือสิ้นหวังต่อเนื่องหลายวัน
- นอนได้นานผิดปกติ แต่ตื่นมาก็ยังรู้สึกไม่สดชื่น
- อยากอยู่คนเดียว ไม่อยากเข้าสังคม
- เบื่ออาหาร
- ไม่อยากทำกิจกรรมที่เคยชอบ
- ขาดแรงจูงใจ สมาธิลดลง
- อารมณ์แกว่ง หงุดหงิดง่าย
- มีความคิดด้านลบกับตัวเอง หรือแม้แต่ความคิดอยากหายไป
ทำไมฤดูฝนถึงมีผลต่ออารมณ์?
- แสงแดดน้อยลง ทำให้ระดับเซโรโทนินลดลง ส่งผลให้รู้สึกเศร้า ซึม หรือเฉื่อยชา
- เมลาโทนินเปลี่ยนแปลง ร่างกายอาจรู้สึกง่วงมากขึ้น ทำให้ขี้เกียจและไม่สดชื่น
- สภาพอากาศจำกัดกิจกรรม เช่น ออกกำลังกายน้อยลง หรือนัดเจอเพื่อนได้น้อยลง
- ความชื้นและอากาศเย็น ส่งผลต่อการไหลเวียนเลือดและระบบประสาทบางส่วน ทำให้รู้สึกเฉื่อย
วิธีดูแลสุขภาพใจในช่วงฤดูฝน
- เปิดรับแสงธรรมชาติให้มากขึ้น เช่น เปิดม่านในตอนเช้า หรือออกไปเดินเมื่อฝนหยุดตก
- ออกกำลังกายแม้ในบ้าน การเคลื่อนไหวช่วยกระตุ้นสารแห่งความสุข เช่น เอนดอร์ฟินและโดปามีน
- รับประทานอาหารที่ดีต่อสมอง เช่น ปลา ไข่ ถั่ว โกโก้ และผักผลไม้สีสันสดใส
- จัดกิจกรรมที่ช่วยฟื้นใจ เช่น ฟังเพลง ทำงานศิลปะ อ่านหนังสือ หรือปลูกต้นไม้
- แบ่งปันความรู้สึกกับคนใกล้ชิด หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต หากอาการไม่ดีขึ้น