เมื่อนึกถึง “โรคหัวใจ” หลายคนมักเชื่อว่าเป็นโรคของผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัวมานาน แต่ความจริงแล้ว โรคหัวใจกลับค่อย ๆ คืบคลานเข้าหาคนวัยทำงานมากขึ้นทุกปี จากสถิติพบว่า คนอายุ 30–50 ปี กลายเป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญที่มีแนวโน้มเป็นโรคหัวใจเร็วขึ้น ทั้งจากความเครียดสะสม การนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ พฤติกรรม และการกินอาหารที่มีไขมันสูงโดยไม่รู้ตัว
พฤติกรรมแบบไหนที่เร่งให้หัวใจพังเร็ว
- เครียดเรื้อรังจากงานหรือชีวิตส่วนตัว
ส่งผลให้ฮอร์โมนความเครียดสูงขึ้น ทำให้ความดันโลหิตและอัตราการเต้นหัวใจผิดปกติ - นอนน้อย / พักผ่อนไม่เพียงพอ
การนอนน้อยทำให้ระบบประสาทอัตโนมัติเสียสมดุล เสี่ยงต่อภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ - นั่งทำงานต่อเนื่องนานโดยไม่ขยับตัว
เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือด รวมถึงทำให้ระบบเผาผลาญลดลง - กินอาหารไขมันสูง เค็มจัด หวานมาก
เร่งให้เกิดไขมันอุดตันในหลอดเลือดหัวใจโดยไม่รู้ตัว - สูบบุหรี่ / ดื่มแอลกอฮอล์ประจำ
ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวเร็ว และหัวใจต้องทำงานหนักมากขึ้น
สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม
- แน่นหน้าอก หรือเจ็บหน้าอกเฉียบพลัน
- เหนื่อยง่ายผิดปกติ โดยเฉพาะเวลาขึ้นบันไดหรือออกแรง
- ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นไม่สม่ำเสมอ
- ขาบวม เท้าบวม โดยไม่มีเหตุชัดเจน
- เวียนหัว หน้ามืด เป็นลมง่าย
แม้อาการเหล่านี้จะไม่ได้เกิดเฉียบพลันเหมือนในภาพจำของโรคหัวใจ แต่หากเกิดบ่อย หรือเกิดร่วมกัน ควรเข้ารับการตรวจประเมินโดยแพทย์ทันที
แนวทางลดความเสี่ยงโรคหัวใจในคนวัยทำงาน
- พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6–8 ชั่วโมง
- หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน
- หลีกเลี่ยงอาหารทอด น้ำตาลสูง และลดการบริโภคโซเดียม
- จัดการความเครียดด้วยวิธีที่เหมาะกับตนเอง เช่น นั่งสมาธิ ฟังเพลง หรือพูดคุยกับคนที่ไว้ใจ
- ตรวจสุขภาพหัวใจประจำปี โดยเฉพาะหากมีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ
อย่ารอให้หัวใจส่งสัญญาณเตือนรุนแรงก่อนค่อยใส่ใจ เพราะในยุคที่การใช้ชีวิตของคนวัยทำงานเต็มไปด้วยความเร่งรีบ ความเครียด และพฤติกรรมที่ทำลายสุขภาพโดยไม่รู้ตัว โรคหัวใจอาจไม่ใช่เรื่องของ “วัยชรา” อีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของ “วันนี้” ที่เราต้องเริ่มดูแลตัวเองให้ทันก่อนสายเกินแก้