ในอดีต คนมักมองว่า “อ้วน” เป็นแค่เรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก แต่ในมุมมองทางการแพทย์ โรคอ้วน (Obesity) คือ “โรคเรื้อรัง” ที่ซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของระบบเผาผลาญ (Metabolic Dysfunction) โดยตรง
โรคอ้วนไม่ได้เกิดจากการกินมากเกินไปเพียงอย่างเดียว แต่เป็นผลจาก ความไม่สมดุลของฮอร์โมน การเผาผลาญ และพฤติกรรมการใช้ชีวิต ที่ทำให้ร่างกายสะสมพลังงานในรูปของไขมันมากผิดปกติ โดยเฉพาะบริเวณช่องท้อง
โรคอ้วน จุดเริ่มต้นของโรคเรื้อรังหลายชนิด
ไขมันส่วนเกิน โดยเฉพาะ ไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) เป็นเหมือน “อวัยวะเงียบ” ที่หลั่งสารอักเสบ (Inflammatory Cytokines) เข้าสู่กระแสเลือดอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง (Chronic Inflammation) ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคต่าง ๆ เช่น
- เบาหวานชนิดที่ 2
- ความดันโลหิตสูง
- ไขมันในเลือดสูง
- โรคหัวใจและหลอดเลือด
- ภาวะตับไขมัน (Fatty Liver)
- ภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล
กล่าวได้ว่า “โรคอ้วน” คือศูนย์กลางของกลุ่มโรคเรื้อรัง (Metabolic Syndrome) ที่ต้องรักษาอย่างจริงจัง ไม่ใช่เพียงเพื่อรูปร่าง แต่เพื่อชีวิตที่ยืนยาว
เข้าใจ “ฮอร์โมน” ตัวการสำคัญของโรคอ้วน
การสะสมไขมันในร่างกายสัมพันธ์กับการทำงานของฮอร์โมนหลายชนิด เช่น
- Leptin: ฮอร์โมนควบคุมความอิ่ม หากดื้อต่อ Leptin จะรู้สึกหิวบ่อย กินเท่าไรก็ไม่อิ่ม
- Insulin: หากร่างกายดื้อต่ออินซูลิน พลังงานจะไม่ถูกนำไปใช้แต่กลับสะสมเป็นไขมัน
- Cortisol: ฮอร์โมนเครียดที่กระตุ้นให้เกิดการสะสมไขมันบริเวณหน้าท้อง
- Thyroid Hormone: หากต่ำกว่าปกติ ระบบเผาผลาญจะช้าลง ทำให้น้ำหนักเพิ่มง่าย
การรักษาโรคอ้วนจึงไม่ใช่เพียง “คุมอาหาร” แต่ต้อง “ฟื้นฟูสมดุลของฮอร์โมน” เพื่อให้ระบบร่างกายกลับมาทำงานได้อย่างเป็นปกติ
โรคอ้วน โรคเรื้อรังที่รักษาได้ หากเข้าใจต้นเหตุ
แนวทางการดูแลโรคอ้วนในปัจจุบันจึงมุ่งเน้นแบบองค์รวม (Holistic & Functional Medicine) โดยประกอบด้วย
✅ การวิเคราะห์ระบบเผาผลาญและฮอร์โมน (Metabolic & Hormonal Profile)
✅ การวางแผนโภชนาการเฉพาะบุคคล (Personalized Nutrition)
✅ การจัดการความเครียดและการนอนหลับ
✅ การเสริมสารอาหารหรือวิตามินที่จำเป็น
✅ การใช้ยาอย่างเหมาะสมภายใต้การดูแลของแพทย์
แนวทางทั้งหมดนี้มีเป้าหมายเพื่อ ส่งเสริมสมดุลของร่างกาย และ สนับสนุนการดูแลสุขภาพระยะยาวอย่างยั่งยืน